Everton 0 – 2 Liverpool

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ตอร์ฮีโร่หงส์!ซัดทดเจ็บดับวิลล่า1-0




เฟร์นานโด ตอร์เรส สวมบทฮีโร่ให้กับพลพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หลังบุกไปเชือด "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า ไปแบบสุดแสบในช่วงทดเจ็บ 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา


แอสตัน วิลล่า 0 - ลิเวอร์พูล 1

เกมคู่สำคัญที่วิลล่า พาร์ค แอสตัน วิลล่าจำต้องปรับทัพจากเกมแพ้อาร์เซน่อลสองรายโดยใช้งานยอห์น คาริวแทนเอมิล เฮสกี้อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลที่เจ็บขาหนีบ เช่นเดียวกับไนเจล รีโอ โคเกอร์ซึ่งได้เสียบแทนแอชลีย์ ยังซึ่งติดโทษแบน

ด้านหงส์แดงยังขาดฮาเวียร์ มาสเคราโน่ที่โดนพักแข้ง และมีการเปลี่ยนผู้เล่นจากนัดก่อนรายเดียวด้วยการหันกลับไปใช้งานเดิร์ก เคาท์แทนฟาบิโอ ออเรลิโอที่เจ็บน่อง แต่ทั้งนี้พ่อค้าแข้งแซมบ้ายังมีชื่อนั่งอยู่ข้างสนาม

เกมเริ่มต้นท่ามกลางหิมะที่โปรยลงมา แต่ในฐานะเจ้าบ้านวิลล่าเปิดฉากกดดันใส่อาคันตุกะทันที ขณะที่หงส์แดงก็บ่ยั่นเน้นเกมรุกสู้เต็มที่เช่นกัน

กระนั้นก็เป็นเร้ด แมชีนที่เกือบขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 17 เมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรสครองบอลได้หน้าเขตโทษจึงป้ายสั้นๆให้สตีเว่น เจอร์ราร์ดตะบันทันที ทำเอาแบรด ฟรีเดลอดีตนายด่านตาข่ายถิ่นแอนฟิลด์ต้องออกแรงกระโดดปัดให้พ้นคาน

ผ่านมาถึงนาทีที่ 24 วิลล่าก็หาโอกาสได้จากจังหวะที่กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ผ่านบอลจากกราบขวามาหน้าเขตโทษให้เจมส์ มิลเนอร์กระทุ้ง แต่ไม่รุนแรงพอที่จะผ่านสองมือของโฆเซ่ เรน่า

จากนั้นในนาทีที่ 30 สิงห์ผยองก็ชวดโอกาสได้เฮอย่างเหลือเชื่อจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของมิลเนอร์ที่ลอยมาเสาไกลโดยเอมิลิอาโน่ อินซัวก่อความผิดพลาดไม่คุมพื้นที่ ทำให้สจ๊วร์ต ดาวนิ่งได้วอลเลย์อย่างถนัดถนี่ระยะหกหลา แต่บอลพุ่งไปตรงตัวให้เรน่าปัดพอดี

จวบจนนาทีที่ 41 ผู้ตัดสินก็มอบใบเหลืองให้ริชาร์ด ดันน์กองหลังวิลล่าข้อหาเข้าอัดใส่ลูคัส เลว่า แต่อีกสองนาทีต่อมากองกลางแซมบ้าของลิเวอร์พูลก็โดนจดชื่อเมื่อทำฟาวล์อั๊กบอนลาฮอร์ ครบ 45 นาทีทั้งคู่จึงกินกันไม่ลงเจ๊ากันไป 0-0

ครึ่งหลัง เกมของทั้งสองฝ่ายยังคงขาดๆเกินๆจึงทำอะไรกันไม่ได้ แต่รวมแล้วเป็นลิเวอร์พูลที่เดินหน้าได้เหนือกว่า

กระทั่งนาทีที่ 63 คาร์ลอส เกยาร์ก็ไปสกัดเจอร์ราร์ดล้มจึงเป็นลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษของเร้ด แมชีนระยะ 30 หลา แต่อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ซัลโวโด่งออกไป

ถัดมาในนาทีที่ 70 วิลล่าก็หวิดออกนำจากลูกวางยาวโต้ขึ้นมาที่เจมี่ คาร์ราเกอร์วิ่งตีคู่ไปกับอั๊กบอนลาฮอร์แล้วสะดุดล้ม จึงเป็นการเปิดทางสะดวกให้กองหน้าผิวสีหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปเข่นระยะ 12 หลา ทว่าเรน่าปิดเสาแรกมิดชิดจึงปัดทิ้งได้เยี่ยม

และจากลูกเตะมุม ทีมเจ้าถิ่นก็ทิ้งขว้างโอกาสงามไปเองอีกเมื่อคาริวได้โขกเหน่งๆห้าหลา แต่สะบัดหลุดเสาสองออกไป

ขยับมาอีกสองนาที สิงห์ผยองตัดสินใจเปลี่ยนรีโอ โคเกอร์ออกให้มาร์ค อัลไบรท์ตันลงไปแทน ขณะที่ลิเวอร์พูลใช้งานไรอัน บาเบิ้ลแทนอาควิลานี่ในนาทีที่ 78

ช่วงสิบนาทีสุดท้าย วิลล่าส่งสตีฟ ซิดเวลล์ลงไปแทนดาวนิ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ถูกหงส์แดงโหมบุกใส่อย่างหนัก

แต่แล้ว ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้บอลที่กระฉอกมาเข้าทาง ก่อน แตะหนึ่งจังหวะแล้วบรรจงแปด้วยขวาสวนตัว แบร๊ด ฟรีเดล เสียบโคนเสาเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด

จบ 90 นาที แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด ฟรีเดล - ลุค ยัง, การ์ลอส กูเอย่าร์, ริชาร์ด ดันน์, สตีเฟ่น วอร์น็อค - ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, เจมส์ มิลเนอร์, สติลิยาน เปตรอฟ, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์, ยอห์น คาริว
สำรอง: แบร๊ด กูซาน (ผู้รักษาประตู) - สตีฟ ซิดเวลล์, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, นาธาน เดลฟูเนโซ่, ฟาเบียน เดลฟ์, ฮาบิบ เบย์, เจมส์ คอลลินส์

ลิเวอร์พูล: โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - เดิร์ค เค้าท์, ลูคัส เลยว่า, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ยอสซี่ เบนายูน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง: ดีเอโก้ คาวาเลียรี่ (ผู้รักษาประตู) - ฟาบิโอ ออเรลิโอ, โซติริออส คีร์เกียกอส, ไรอัน บาเบิ้ล, ดาวิด เอ็นก๊อก, เจย์ สเปียริ่ง, มาร์ติน สเคอร์เทล

ผู้ตัดสิน: ลี โปรเบิร์ต

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

หงส์ช็อก!ตอร์เรสเผ่นหากวืดตั๋วชปล.




แฟนบอล ลิเวอร์พูล มีหวังช็อกไปตามๆ กัน หลังสื่อจอมแฉเมืองผู้ดีเผย เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงตัวเก่ง เตรียมลาถิ่น แอนฟิลด์ หลังจบซีซั่นนี้ หากไม่สามารถคว้าตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก คาดมีความเป็นไปได้ เพราะขนาดทีมรักอย่าง แอต.มาดริด ยังเคยเผ่นมาแล้ว



เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ของ ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก สร้างความช็อกให้กับเหล่า "เดอะ ค็อป" เมื่อพร้อมจะย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ หลังจบฤดูกาลนี้ หาก "หงส์แดง"ไม่สามารถทำอันดับไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า ตามรายงานจาก "นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" แท็บลอยด์เล่มดังเมืองผู้ดีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เคยปัดข้อเสนอก้อนโต 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,920 ล้านบาท) ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นซื้อ ตอร์เรส มาแล้ว แต่ล่าสุดมีรายงานว่า "หงส์แดง" อาจต้องจำใจปล่อยดาวยิงสแปนิชออกจากทีม โดยสื่อเมืองผู้ดีเผยว่า แม้ อดีตหัวหอก แอตเลติโก มาดริด จะยังคงรักชีวิตในถิ่นแอนฟิลด์ รวมถึงเพิ่งเรียกความมั่นใจกลับมาจากการเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทว่าหากสถานการณ์ของสโมสรตอนจบฤดูกาลยังไม่สู้ดี ก็น่าจะมีสิทธิ์ทำให้ดาวยิงรายนี้เตรียมหาต้นสังกัดใหม่

พร้อมกันนี้ "นิวส์ ออฟ เดอะเวิลด์" ยังวิเคราะห์ว่า ตอร์เรส เคยตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการอำลาทีมรักอย่าง แอต. มาดริด มาค้าแข้งในลีกผู้ดีครั้งหนึ่งแล้ว เนื่องจาก "ตราหมี" ไม่สามารถก้าวไปเบียดแย่งแชมป์ลีกได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวก็น่าจะทำให้เจ้าตัวตัดใจอำลาถิ่น แอนฟิลด์ ได้เช่นกัน

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

หงส์ยิ้มงานเบา,ม้าลายดวลอาแจ็กซ์



แฟนบอล "หงส์แดง" ได้ยิ้มกันแก้มปริแน่นอนหลังจากผลการจับสลากรอบ 32 ทีมยูโรปา ลีก ออกมาเจอกับงานไม่หนัก เมื่อต้องเล่นกับ ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี่ ทีมจากบัลแกเรีย ขณะที่เพื่อนร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ต้องพบงานหินอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอดทีมจากโปรตุเกส ส่วน ยูเวนตุส ต้องเจอกับ อาแจ็กซ์ และ โรม่า ดวลแข้ง พานาธิไนกอส





ผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบน็อกเอาต์ 32 ทีมสุดท้าย ที่นียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาซึ่ง ลิเวอร์พูล ทีมดังของอังกฤษ ที่ตกรอบมาจากแชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้เป็นทีมวาง เท่ากับมีโอกาสพบกับทีมแข็งอย่างแชมป์เก่า ชัคเตอร์ โดเนทส์ค, โรม่า, เบนฟิก้า, ยูเวนตุส, โวล์ฟสบวร์ก หรือ บาเลนเซีย ได้

โดย 32 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2009-10 ประกอบด้วยแชมป์กลุ่ม 12 ทีม : อันเดอร์เลชท์,ฮาโปเอล เทลอาวีฟ,โรม่า,ซัลซ์บวร์ก,เบนฟิก้า,พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น,บาเลนเซีย,สปอร์ติ้ง ลิสบอน,กาลาตาซาราย,เฟเนร์บาห์เช่,ชัคเตอร์ โดเนทส์ค,แวร์เดอร์ เบรเมน

รองแชมป์กลุ่ม 12 ทีม : แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, ฟูแล่ม, พานาธิไนกอส, คลับ บรูช, เอฟซี โคเปนฮาเก้น, แอธเลติก บิลเบา, อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ลีลล์, ฮัมบูร์ก, บียาร์เรอัล, เอฟเวอร์ตัน, เอฟซี ทเวนเต้

อันดับสามจากรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก 8 ทีม : ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี่, ยูเวนตุส, โวล์ฟสบวร์ก, โอลิมปิก มาร์กเซย, ลิเวอร์พูล, รูบิน คาซาน, สตองดาร์ ลีแอช, แอตเลติโก มาดริด



ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบน็อกเอาต์ 32 ทีมสุดท้าย



รูบิน คาซาน (รัสเซีย) พบ ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล)


แอธเลติก บิลเบา (สเปน) พบ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยี่ยม)


เอฟซี โคเปนฮาเก้น (นอร์เวย์) พบ โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)


พานาธิไนกอส (กรีซ) พบ โรม่า (อิตาลี)


แอตเลติโก มาดริด (สเปน) พบ กาลาตาซาราย (ตุรกี)


อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) พบ ยูเวนตุส (อิตาลี)


คลับ บรูช (เบลเยี่ยม) พบ บาเลนเซีย (สเปน)


ฟูแล่ม (อังกฤษ) พบ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)


ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) พบ ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี่ (บัลแกเรีย)


ฮัมบูร์ก (เยอรมัน) พบ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์)


บียาร์เรอัล (สเปน) พบ โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน)


สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยี่ยม) พบ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย)


เอฟซี ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) พบ แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)


ลีลล์ (ฝรั่งเศส) พบ เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี)


เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) พบ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส)


แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เยอรมัน) พบ เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาร์ชาวินฮีโร่ ยิงดับหงส์คาบ้าน 2-1




ราฟาเอล เบนิเตซกุนซือสมองเพชรไฟลนจนตูดแหกไม่ยอมไปซักทีล่าสุดผลงานลิเวอร์พูลห่วยไม่เลิกพ่าย"ปืนใหญ่"คาบ้านทั้งๆที่เคาท์ยิงขึ้นนำก่อนในครึ่งแรกแต่สุดท้ายเสียสองลูกรวดยังแช่อยู่อันดับ 7 และนำหน้าทีมอย่างสโต๊คที่อยู่อันดับ 11 เพียงแค่ 3 คะแนนส่วนลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 แล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552

ลิเวอร์พูล 1-2 อาร์เซนอล

ประตู : 1-0 เคาท์ น.41,1-1 จอห์นสัน น.50,1-2 อาร์ชาวิน น.58

ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพคึกคักเลยทีเดียวหลังได้เฟร์นานโด ตอร์เรสกลับมายืนเป็นกองหน้าอีกครั้งแต่ที่ชัวร์ปึ๊กคือลูคัส เลว่าที่พักเต็มๆเมื่อกลางสัปดาห์กลับมาจับคู่กับฮาเวียร์ มาสเคราโน่อีกครั้งนั่นหมายความว่าอัลแบร์โต้ อาควิลานี่ต้องกลับไปนั่งสำรองตามเดิม

ด้านอาร์เซนอลมีปัญหาผู้เล่นเจ็บเยอะเรียกว่าหน้าเป้าหายเกลี้ยงทั้งฟาน เพอร์ซี่และเบนด์เนอร์ทำให้ต้องใช้แนวรุกตัวเล็กๆอย่างอังเดร อาร์ชาวินและซาเมียร์ นาสรี่โดยมีเชสก์ ฟาเบรกัสเป็นจอมทัพเช่นเดิม

ครึ่งแรก

หงส์กระหน่ำแหลก
"หงส์แดง"เริ่มเกมมาก็ลุยแหลกใส่อาร์เซนอลตามฟอร์มพร้อมเสียงเชียร์ของเดอะค็อปที่ร้องยูวิว เนฟเวอร์ วอล์ก อโลนตั้งแต่ก่อนเขี่ย

"ปืนใหญ่"พยายามใช้การสวนกลับเพราะเจ้าถิ่นกำลังบ้าระห่ำมากแต่ดูเหมือนแนวรับและมิดฟิลด์ตัวรับที่ราฟาเอล เบนิเตซวางหมากมานั้นกำลังทำหน้าที่สกรีนหยุดเกมรุกเพื่อเอาบอลกลับได้ดีอยู่

ช็อกตอร์เรสยิงเน้นๆไม่เข้า
นาที 11 ลิเวอร์พูลน่าจะขึ้นนำอย่างที่สุดหลังจังหวะที่ทีมเยือนบุกอยู่ดีๆเสียบอลทำให้เคาท์ตัดแล้วฝากให้ตอร์เรสทำชิ่งตรงหัวกระโหลกแดนตัวเองกับเจอร์ราร์ดก่อนที่หัวขิงจะกระชากห้อขึ้นมาแล้วปาดตบเร็วให้ตอร์เรสวิ่งมาเข้าฮอร์ตเหน่งๆไร้ตัวประกบในกรอบเขตโทษแต่ตอนยิงเอียงตัวซัดแป๊กไปเข้ามืออัลมูเนียอย่างไม่น่าเชื่อ หายเจ็บไปนานเลยสนิมเกราะ ถ้าเป็นตอนฮ็อตๆไม่น่าเหลือ

หงส์เกือบได้จุดโทษ
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าถิ่นมาอีกแล้วตอร์เรสลากจี้เข้ามาถึงหน้าเขตโทษตรงเยื้องๆฝั่งขวาแล้วปาดแปะให้เจอร์ราร์ดที่วิ่งทำทางก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วตอนแตกหนีกัลลาส์เหมือนสะดุดจนบอลล้นตัวซึ่งเป็นจังหวะที่กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสรวบพอดี กรรมการทำมือให้เล่นต่อ

หัวขิงเทพ
วันนี้เจอร์ราร์ดเล่นดีมาก จ่าบอลแต่ละทีเนียนตาเหมือนเทวดาโดยนาที 21 จังหวะได้บอลตรงกลางสนามแทงไซด์ก้อยตัดหลังตราโอเล่ให้เคาท์วิ่งไปเอาตรงปีกขวาน้ำหนักสุดติ่งก่อนที่แข้งไตรกีฬาจะเอาตัวรอดแล้วแตะต่อให้จอห์นสันกระชากหลุดไปถึงริมกรอบโทษแต่ตอนจ่ายทำได้ไม่ดีติดกองหลัง"ปืนใหญ่"ซะก่อน

หัวขิงซัดติดบล็อก
เจ้าถิ่นยังรับออดอร์บุกมาเรื่อยๆนาที 28 เคาท์ได้บอลในเขตโทษแล้วตบย้อนตั้งให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาแปเน้นๆตรงระยะ 14 หลาแต่ติดบล็อกกองหลังอาร์เซนอลอย่างน่าเสียดาย

ปืนรับเหนื่อย
"ปืนใหญ่"ตั้งรับอยู่ข้างเดียวแต่จะเห็นได้ว่ากำลังจ้องเล่นงานในจังหวะสวนกลับและถ้ามีประตูจากลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์เมื่อไหร่ลิเวอร์พูลงานเข้าแน่เพราะตอนนี้ได้แค่ลูกโหมหนักแต่การประสานงานเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายยังไม่ดีพอโดยเฉพาะตอร์เรสที่วูบวาบน่ากลัวแต่หวงบอลเยอะมากเกินไป

นาที 36 นาสรี่ลากบอลขึ้นมาพอเห็นไม่มีใครเข้าเลยตัดสินใจส่องตรงระยะ 20 หลาเศษๆบอลบดปลิ้นออกข้างเสาไป 2-3 หลา

มาแล้ว 1-0 เคาท์ฮีโร่
เกมที่น่าจะจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้แต่แล้วนาที 41 ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำสมใจอยากจากจังหวะฟรีคิกไกล 30 กว่าหลาที่เจอร์ราร์ดถูกเดนิลสันใช้ก้นดักทางอัดจนตัวลอยเป็นออเรลิโอที่รับหน้าที่ปั่นบอลไซด์ลอยละลิ่วเข้ามาตรงระยะ 7-8 หลาเป็นลูคัสถอยหลังโขกแต่ไม่โดนทำให้อัลมูเนียเสียจังหวะออกมาชกไม่ดีบอลตกมาที่เคาทืใช้อกพักแล้วยิงดีดๆลอดขาเฟอร์มาเลนที่เข้ามาบล็อกเข้าประตูโดยที่กัลลาส์ยืนคุมเส้นถลำไปดักอีกทาง "หงส์แดง" 1-0

ครึ่งหลัง

เชสก์ทักทายก่อน
อาร์เซนอลลงมาเล่นแบบตั้งใจกว่าครึ่งแรกและแค่ 3 นาทีเชสก์ได้ลูกส้มในกรอบเยื้องฝั่งซ้ายเป็นเชสก์ซัดเต็มข้อลอดขาคาร์ราเกอร์ยังดีที่ไปตรงตัวเรน่าที่รับเข้ามือพอดี

จอห์นสัน Og. เสมอ 1-1
และนาที 50 ลิเวอร์พูลงานเข้าจนได้หลังนาสรี่หลุดขึ้นมาตรงริมกรอบโทษก่อนปาดบอลเลียดมาที่จุดนัดพบบอลแฉลบออเลริโอนิดนึงจนคาร์ราเกอร์ที่วิ่งมาเสาแรกถลำพยายามเอาขาสกัดแต่ไม่ถึงบอลเลยมาถูกขาจอห์นสันที่วิ่งตามวัลค็อตต์ค่อยๆกลิ้งเข้าประตูตัวเอง

อาร์ชาวินตะบันหาย 2-1
เจ้าถิ่นงานเข้าอีกแล้วเพราะอีก 8 นาทีต่อมาต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างไม่น่าเชื่อหลังเชสก์หยอดบอลตรงหน้าเขตโทษเลยมาให้อาร์ชาวินแต่เหมือนจอห์นสันจะเก็บกินเพราะเข้าถึงก่อนแต่ดันไปจับบอลไหลปลิ้นเท้าทำให้อาร์ชาวินพลิกทีนึงแล้วตะบันยิงอย่างว่องบอลพุ่งเป็นหัวกระสุนชนเสาเข้าไปสุดงาม เรน่าได้แต่ยืนมอง อาร์ชาวินกำลังกลับมาหลอน"หงส์แดง"อีกแล้วหลังเคยยิงคนเดียว 4 ประตูเมื่อซีซั่นก่อน

หงส์ใบ้กิน
ลิเวอร์พูลโดนเข้าไปถึงกับช็อตความห้าวในครึ่งแรกหายไปหมด เจอร์ราร์ดและตอร์เรสที่เคยพลิ้วไหวตอนนี้หายไปจากเกมแล้วส่วน"ปืนใหญ่"หันมาเล่นบอลเชิงเคาะสั้นๆให้เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายไล่อย่างเดียวแล้ว

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลงัดมวยวัดเข้าสู้แต่เหมือนทีมมีระบบอย่างอาร์เซนอลสามารถต้านเอาไว้ได้ตลอดโดยเฉพาะลูกบอมบ์มั่วซั่วจบเกม"หงส์แดง"แพ้คาบ้าน 2-1 ทำสถิติน่าสะดุ้งชนะแค่ 2 จาก 9 นัดในลีกอยู่อันดับ 11 นำหน้าสโต๊คแค่ 3 แต้มในขณะที่อาร์เซนอลแซงวิลล่าขึ้นไปอยู่ที่สามตามหลังเชลซีแค่ 6 แต้มเท่านั้นพร้อมทำสถิติบุกมาเอาชนะในแอนฟิลด์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 7,เกล็น จอห์นสัน 6(เดเก้น น.82),เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6.5,ดาเนี่ยล แอกเกอร์ 7,ฟาบิโอ ออเรลิโอ 6.5,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 7(อาควิลานี่ น.66,6),ลูคัส เลว่า 6.5,เดิร์ก เคาท์ 7,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6,ยอสซี่ เบนายูน 6(เอ็นก็อน น.79),เฟร์นานโด ตอร์เรส 7

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 5,บาคารี่ ซาญ่า 7,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 7,โธมัส เฟอร์มาเลน 8.5,อาร์มานด์ ตราโอเร่ 6.5(ซิลแวสตร์ น.87),เชสก์ ฟาเบรกัส 7,อเล็กซานเดอร์ ซง 6.5,เดนิลสัน 7,ธีโอ วัลค็อตต์ 6(ดิยาบี้ น.70,6),อังเดร อาร์ชาวิน 8* (แรมซี่ย์ น.92),ซาเมียร์ นาสรี่ 7

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ตอร์เรสคัมแบ็กช่วยหงส์ซดแข้งปืน



เฟร์นานโด ตอร์เรส เตรียมคัมแบ็กตัวจริงช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่นำทัพมาโดย เชส ฟาเบรกาส และ อังเดร อาร์ชาวิน





ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552

ลิเวอร์พูล - อาร์เซน่อล

สนาม : แอนฟิลด์

ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ หงส์แดง เตรียมส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่ง กลับมาเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ หลังหายเจ็บโคนขาหนีบเป็นที่เรียบร้อย ลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วง 25 นาทีสุดท้ายของเกมชปล. ที่แพ้ ฟิออเรนติน่า 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

แดนกลาง อัลแบร์โต้ อควิลานี่ กองกลางตัวใหม่ ก็พร้อมลงตัวจริงเกมลีกเป็นนัดแรกด้วย หลังประเดิมสนามตั้งแต่ต้นเกมจนถึงนาทีที่ 75 ในเกมชปล. ส่วนในราย ไรอัน บาเบล ปีกความเร็วสูง ต้องรอทดสอบความฟิตจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า

อย่างไรก็ตาม ในราย อัลเบิร์ต ริเอร่า, นาบิล เอล ซาร์ (ข้อเท้า) และ มาร์ติน เคลลี่ (ข้อเท้า) ต่างบาดเจ็บไม่มีชื่ออยู่ในทีมทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ มานูเอล เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินชัว แดนกลางมี ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กับ อัลแบร์โต้ อควิลานี่ เป็นตัวรับ ส่วนตัวรุกมี เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอสซี่ เบนายูน หน้าเป้าใช้ เฟร์นานโด ตอร์เรส

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส กลายเป็นทีมที่มีนักเตะบาดเจ็บเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว แต่ตัวหลักหลายคนน่าจะผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามทันเกมนี้ หลังจากผ่านเกมชปล. เมื่อกลางสัปดาห์ โดยใช้ดาวรุ่งชุดที่ทำศึกคาร์ลิ่ง คัพ ลงสนามทั้งทีม

อเล็กซ์ ซง พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว ส่วน เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (ต้นขา) กับ อาบู ดิยาบี้ (น่อง) ก็น่าจะผ่านการทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ เชส ฟาเบรกาส (หลัง), อังเดร อาร์ชาวิน (ข้อเท้า), ธีโอ วัลค็อตต์ (ข้อเท้า), อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ (เอ็นหลังหัวเข่า), วิลเลี่ยม กัลลาส (เอ็นหลังหัวเข่า)

แต่ในราย นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า), โทมัส โรซิชกี้ (โคนขาหนีบ), กาแอล กลิชี่ (หลัง), โยอัน ฌูรู (เข่า), เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (เอ็นหลังหัวเข่า), คีแรน กิ๊บบ์ส (ข้อเท้า) หมดสิทธิ์คืนสนามทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-5-1 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้ หน้าเป้าใช้ อังเดร อาร์ชาวิน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินชัว - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อัลแบร์โต้ อควิลานี่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอสซี่ เบนายูน - เฟร์นานโด ตอร์เรส

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้ - อังเดร อาร์ชาวิน